wawa_hahaa2225



จริงๆแล้วกาแฟมีมากกวา 50 สายพันธุ์

ซึ่งมีรายละเอียดมากมายตามการพัฒนาพันธุ์
แต่โดยทั่วไปจะอาศัยพื้นฐานจาก 3 สายพันธุ์หลักคือ












1. พันธุ์อาราบิกา






มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Coffea arabica

เป็นกาแฟที่มี ผลผลิตประมาณ 90 % ของปริมาณกาแฟของโลกถิ่นกำเนิดอยู่ใน
แถบประเทศเอธิโอเปีย

เจริญเติบโตได้ดีในแถบที่มีอากาศค่อนข้างหนาว จัดเป็นพืชกึ่งเมืองหนาว

และต้องการฤดูแล้งที่ค่อนข้างยาวนาน ประมาณ 2-3 เดือน

คุณภาพเมล็ดกาแฟอาราบิกามีคุณภาพทั้งกลิ่นและ รสชาติดีที่สุด

ลักษณะประจำพันธุ์ที่สำคัญคือมีทรงพุ่มเป็นรูปพีระมิด
ลำต้นสูงประมาณ 6-16 ฟุต กิ่งมักจะแตกเป็นมุมกว้างกับลำต้น

ทำให้ดูเกือบขนานกับพื้นดิน ใบจะเล็ก ไม่ต้านทานต่อโรคราสนิม

จึงปลูกไม่ค่อยได้ในแถบที่มีความ ชื้นหรือฝนตกชุก











2. พันธุ์โรบัสต้า








มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Coffea canephora หรือ Coffea robusta
เป็นกาแฟที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมปลูกได้ดีมาก โดยเฉพาะจะเจริญเติบโต
ได้ดีในแถบที่มีฝนตกสม่ำเสมอ ปลูกได้ทั้งที่มีระดับน้ำใต้ดินเสมอระดับน้ำทะเล
จนถึง 4, 300 ฟุต ผลจะเล็กกว่าพันธุ์อาราบิกา และมีนิสัยชอบร่มเงา เป็นพันธุ์ที่
ต้านทานต่อโรคราสนิม ผลผลิตดีกว่าพันธุ์อาราบิกาเมื่อเปรียบเทียบต้นต่อต้น แต่มี
ข้อเสียที่คุณภาพเมล็ดทั้งกลิ่น และรสชาติด้อยกว่าพันธุ์อาราบิกา




กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า

ในประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ทางแทบภาคใต้ของประเทศ

ซึ่งถือเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญและให้ผลผลิตมากที่สุด

เพราะทางภาคใต้ มีสภาพอากาศที่ร้อนชื้นและฝนตกชุก

มีอุณหภูมิูระหว่าง 25 - 34 องศาเซลเซียส

จึงเป็นพื้นที่เพาะปลูกที่ี่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกกาแฟโรบัสต้า

โดยมีแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญอยู่ที่จังหวัดชุมพร , ระนอง , สุราษฎร์ธานี ,

กระบี่ และ นครศรีธรรมราช.....

ผลผลิตกาแฟโรบัสต้า มีผลผลิตประมาณ 90 - 92 % ต่อปี

มากกว่ากาแฟอาราบิก้าหลายเท่า เพราะมีพื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสมอยู่มาก

จึงทำให้มีผลผลิตกาแฟโรบัสต้าจำนวนมาก และ มีมากเกินกว่า

ความต้องการบริโภคของนักดื่มกาแฟในประเทศ

ที่ต้องการบริโภคกาแฟอาราบิก้ามากกว่า .....

รสชาติของกาแฟ มีความโดดเด่นในเรื่องของรสชาติขมเข้ม หนักแน่น

และมีกลิ่นหอมออกสาป ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟโรบัสต้า

ซึ่งเกิดจากกระบวนการผลิตกาแฟแบบแห้ง




3. พันธุ์ลิเบอริกา


มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Coffea liberica เป็นกาแฟที่ไม่
ค่อยมีความสำคัญมากนักในแง่ของการผลิตเพื่อการค้า เพราะเป็นกาแฟที่มี
คุณภาพต่ำ คือทั้งกลิ่นและรสชาติด้อยกว่า 2 พันธุ์ข้างต้น แต่ข้อดีคือปลูกได้ดี
ในแถบที่มีฝนตกชุก และสม่ำเสมอ อีกทั้งมีลักษณะที่สำคัญคือสามารถปรับตัวเข้า
กับสภาพแวดล้อมปลูกได้เป็นอย่างดี จึงมีความสำคัญในแง่ของการปรับปรุงพันธุ์
มากกว่าการผลิตเพื่อการค้า




ที่มา





0 Responses

แสดงความคิดเห็น